แม่เจ้าบ่าวป้ายแดง ชุ ชุดาภา แท็กทีมเพื่อนสนิทกว่า 30 ปี ท็อป ดารณีนุช และ ก้อง ปิยะ มาเปิดเผยเรื่องน่ายินดีลูกชาย น้องจินโจว และน้องเจอาร์ ลูกสาวของนักแสดงอารมณ์ดี ผัดไท ควงคู่เข้าสู่ประตูวิวาห์ พร้อมเผยโมเมนต์แม่ ๆ น้ำตาไหลไม่หยุดในงานแต่งลูก และอะไรที่ทำให้น้อง เจอาร์ ขอร้องให้พี่ก้องรับหน้าที่สำคัญในงานแต่งงานพร้อมเคลียร์คนเมาท์เบื้องหลังความรักของลูก ๆ คือทีมแม่ ๆ เป็นคนจับคู่ให้ งานนี้ความจริงจะเป็นยังไง ฟังจากปากแม่ ๆ ได้เลย ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มีเบนซ์ พรชิตา และบูม สุภาพร เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
ขอแสดงความยินดีที่ลูกชายของพี่ชุขายออกแล้ว
ชุ ชุดาภา : จริง ๆ ไม่ใช่ลูกชายพี่นะ ลูกชายของกลุ่มเลย
เรียกว่าเป็นงานที่อบอวลไปด้วยความรักความอบอุ่นของเพื่อน แม่ ๆ และลูก ในฐานะเป็นคุณแม่รู้สึกยังไงบ้าง ?
ที่ทุกคนตกใจกว่านั้นคือพี่ชุไปมีลูกตอนไหน ?
ชุ ชุดาภา : ใช่ จนทุกวันนี้คนก็ยังถามอยู่เลย พี่โดนถามตั้งแต่ลูกเล็ก ๆ ด้วยความที่เขาขาวตี๋ คนก็นึกว่าไปขอมาเลี้ยงแล้วแล้วพอตอนลูกเล็ก ๆ 1-2 ขวบ พี่ไปออกรายการ แต่ว่าคนดูน้อย แล้วพอเสร็จปุ๊บลูกจะไปเรียนเมืองนอกก็เลยลงไอจี จริง ๆ ไม่เคยปิด แต่กลุ่มคนดูช่องทางมันหลากหลายก็จะมีคนรู้นิดเดียว แต่ในวงการรู้หมด
สมัยก่อนย้อนกลับไป อาจจะไม่ได้โซเชียลจ๋าเหมือนสมัยนี้ คนเลยอาจจะไม่ได้รู้ทั้งประเทศ แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แค่พี่ชุใจฟูหรอก เพื่อน ๆ แม่ตื้นตันขนาดไหน ?
ก้อง ปิยะ : ตอนรู้ที่จะแต่งงานก็ตกใจ ไม่คิดว่ามันจะอยู่ในเครือกันขนาดนี้ แต่พอได้มาเจอได้พาเขาไปดูของชำร่วย ดูชุดก็เป็นแม่งานช่วยด้วย พอเห็นวันงานรู้สึกว่าหลานโตแล้ว แต่เริ่มน้ำตาจะไหลตอนที่จะต้องพาเจอาร์เข้าโบสถ์จริง ๆ
ทำไมเป็นพี่ก้อง ?
ก้อง ปิยะ : คือคุณพ่อติดธุระ คุณพ่อเขาเป็นนักบินก็เลยมาไม่ได้เลยกลายเป็นพี่ ซึ่งพี่รู้ตั้งแต่มาแล้วว่าเป็นพี่ แต่ตอนแรกคิดว่าคงเหมือนเข้าฉากละคร พอวันจริงกำลังจะเข้าโบสถ์ เสียงเพลงแต่งงานขึ้น น้ำตาจะไหล เห็นไหมพี่หน้าบึ้งมากเพราะพี่พยายามเกร็งไม่ให้น้ำตาไหล เพราะถ้าพี่น้ำตาไหล พี่จะเด่นกว่าเจ้าสาว พี่รู้สึกว่าวันนี้หลานพี่เป็นนางเอก ต้องให้เขาเด่นสุดก็เลยนิ่ง ๆ เงียบ ๆ
พี่ผัดไทร้องไห้ตลอดทั้งงานเลย ?
ผัดไท : ใครร้องไห้ จริง ๆ ฉันไม่ได้ร้อง แต่ตัวนั้นนำ
พี่ท็อปร้องคนแรก ?
ท็อป ดารณีนุช : เออ
ผัดไท : พี่ท็อปนั่งอยู่ตอนรอพี่ก้องพาเจเข้ามายิ้มแย้มแจ่มใส แต่พอหันไปอีกที อ้าว…ดารณีเป่าปี่ซะแล้ว แล้วพอนางขึ้นตรงนั้นก็ขึ้นกันทั้งแผงเลย เขาพูดว่าเห็นตั้งแต่เด็ก อาบน้ำ อาบท่าให้มา พูดเรื่องแบบนี้เราก็น้ำตาไหลตามมาเป็นแถบ ๆ เราก็นึกเพราะเราเห็นทั้งคู่มาตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเฉพาะพี่ท็อปใครติดงานอะไร เขาก็จะเอาเด็กพวกนี้ไปเที่ยว แล้วพี่เป็นคนหวงลูก พี่ไม่ให้ลูกไปกับใคร แต่ให้ไปกับเขา ภาพพวกนี้มันขึ้นมาก็ร้องสิคะ พี่ก็ไม่ไหว พี่ก้องหันมาเห็นเขาก็ดุ ทำเป็นแบบว่าอะไรกัน แต่จริง ๆ ข้างในของเขาไหลยิ่งกว่าเรา แต่เขาไม่ได้ เขาต้องดูแลงาน
พี่ผัดตื้นตันแค่ไหนที่เห็นภาพลูกตัวเองในวันนั้น ?
ผัดไท : เอาจริง ๆ พี่มองแต่น้องโจ เพราะพี่รัก คือลูกชายจะมีลูกพี่ท็อป 2 คน แล้วก็น้องโจมันเป็นเด็กเล็กสุดในกลุ่มก็เห็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ ก็ชินแล้ว นึกภาพบ้านพี่ชุ เขาจะมีบันไดสูง ๆ เวลาเราไปกินเลี้ยงกัน โจเขาจะนั่งตรงบันได แล้วก็ถือผ้าเน่าของเขา แล้วนั่งดูพวกเราทำกิจกรรม แต่เขาไม่ได้มาจอยด้วย แล้วตาเขาออกแดง ๆ เหมือนเด็กง่วงนอน ภาพเหล่านี้มันขึ้นมา แล้วตอนนี้มาเป็นลูกชายลูกชายเรา คือเราร้องไห้ ไม่ได้ร้องไห้ภาพตรงนั้นเป็นหลัก แต่เราร้องไห้กับอดีตที่เราเห็นเขามา
ผัดไท : เขียน ๆ เขียนในไอจี มีคนชื่นชม แล้วก็มีความถามว่าทำไมเปลี่ยนโรงเรียนลูกบ่อย ทำไมไม่ให้ลูกไปโรงเรียน ทำไมเอาลูกไปเชียงใหม่ ทำไมเอาลูกไปนั่น ไปนี้ กลัวเด็กไม่เรียนตามสเต็ป แต่เราก็มีวิธีของเรา แต่ทำอะไรก็ได้ที่เขาเจอกับตัวเองที่ไม่ใช่แม่บอก พี่รู้สึกว่าถึงเราจะเลี้ยงแบบนี้ แต่วันนี้เราก็ส่งเขาถึงจนได้ จริง ๆ ไม่ได้ขอบคุณตัวเองนะ ต้องขอบคุณลูก เพราะนางก็ให้ความร่วมมือ พัฒนาตัวเองไปด้วยกัน
พอเห็นอย่างนี้ จริง ๆ ก็เหมือนหมดหน้าที่หลักแล้วนะ ที่เหลือก็เป็นผู้ช่วย ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ตอนนี้ก็เป็นลมใต้ปีกแล้ว ไม่งั้นมันจะไม่ใช่ครอบครัวเขามันจะเป็นครอบครัวที่มาจากการดีไซน์ของแม่ต่อไป ซึ่งไม่ควรทำอย่างนั้น อีกหน่อยเราก็ต้องจากโลกนี้ไป กลัวเด็ก ๆ เขาจะยืนไม่ได้เราก็ต้องปล่อย ถ้าเขามีคำถามเราก็เตรียมตัวตอบเขาอยู่แล้ว พวกเราก็เป็นแบบนี้กันทั้งกลุ่ม โดยเฉพาะคุณก้องที่เป็นเหมือนแม่ของทุกคน พวกเราก็เป็นแค่ตัวประกอบ พี่ก้องทำเยอะ
ก้อง ปิยะ : ไม่ขนาดนั้น แม่เขายังอยู่
ผัดไท : ตอนลูกพี่ผัดคลอด หมอบอกให้ติดต่อญาติ เพราะน้องคลอดกะทันหัน 8 เดือน ทุกอย่างดูวุ่นวายไปหมด เขาบอกขอเบอร์ติดต่อญาติ พี่จำเบอร์ใครไม่ได้เลย พี่จำเบอร์แพคลิ้งพี่ก้องได้ พยาบาลก็แพคลิ้งไปบอกว่า ยินดีด้วยนะคะลูกคุณคลอดแล้ว แล้วพอตอนเช้าได้ยินเสียงคนพูดกัน มันอยู่ไหน ๆ วุ่นวายกันเหลือเกิน เขาก็มารับหลาน มาดูตั้งแต่เกิด พี่ก้องหนักสุด เพราะพี่ก้องเห็นตั้งแต่น้องเกิด แล้วไม่ใช่แค่ลูกเรานะ ลูกพี่ท็อป ลูกพี่ชุ คือลูกพี่ท็อปยิ่งหนักเลย พี่ก้องเข้าห้องคลอดเลย
ก้อง ปิยะ : จริง ๆ ไม่ได้เข้าไปหาพี่ท็อป ไม่ได้เข้าไปดูลูกหรอก อยากไปดูของสงวนเขา
ผัดไท : ต้องให้พี่ท็อปเล่า จริง ๆ เสียงแรกที่ลูกได้ยินน่าจะเป็นเสียงแม่
ท็อป ดารณีนุช : เขาเป็นคนที่มีบทบาทในชีวิตพวกเรา ก้องเขาเป็นผัวของกลุ่ม เพียงแต่เราไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์อะไรกัน เขาเป็นเจ้าอาณาจักรที่ดูแลเราอย่างดีนะ ปากก็ด่า ๆ พูดแล้วจะร้องไห้ แต่เขาเป็นอย่างนี้ เขาจะดูแลพวกเราโดยที่แบบเออ…กูดูมึงนะ แต่เขาจะดู ดูทุกคนด้วยนะ พี่ก้องเขาทำมากกว่าพูด แล้วพอเราเห็นเขาคลอดลูก เขาก็อยากมีลูก แล้วเขาก็ไปมีลูกเลย 1 ปี
ชุ ชุดาภา : ต่อ ๆ กันเลย อยากมีลูกอยู่แล้ว เข้าไปในห้องคลอดด้วย แล้วมีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่าชุมาดูทางนี้สิ เราก็ส่ายหัวเราไม่กล้าดู
พี่ก้องก็อยู่ในทุกโมเมนต์ของเพื่อน ?
ก้อง ปิยะ : แต่ของเขาพี่ไม่อยู่ เจอเขาตอนโตแล้ว แล้วทะเลาะกับลูกด้วย วันนั้นขับรถไปกาญจนบุรี แล้วเขาตีแม่ พี่บอกหยุด อย่ามาตีแม่ฉันนะฉันเกิดก่อน อยู่กับแม่เธอมาตั้งนานยังไม่ตีแม่เธอเลย
ชุ ชุดาภา : ตั้งแต่นั้นมาพี่ไม่เอาลูกมาหาพี่ก้องอีกเลย
ก้อง ปิยะ : เด็กมันก็งง เอ๊ะ…ด่าอะไร
ชุ ชุดาภา : เห็นไหมภาพในวันแต่งงานเขาได้คะแนนแค่วันเดียว แต่ตลอด 20 กว่าปีที่เขาทำกับหลานมาหลานจำไม่ได้
ทั้งแก๊งก็เหมือนช่วยกันเลี้ยงมาหมดเลย ?
ผัดไท : ช่วยกันเลี้ยง
ชุ ชุดาภา : ใช่ เพราะจริง ๆ เด็กเขาจะอยู่แต่กับแม่ พอเขาออกมาเจอเพื่อนเขาหวงแม่ เขาก็เหมือนไม่ให้คุยแล้วพี่ก้องก็เลยสอน
ท็อป ดารณีนุช : ต้องเข้าใจวัฒนธรรมกลุ่มเรามันครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์แบบ มันเลยเติมเต็มซึ่งกันและกัน เพราะฉะนั้นเป็นกลุ่มเพื่อนนี่แหละ ที่คนนั้นเป็นพ่อ คนนั้นเป็นแม่ คือบางคนไม่เข้าใจว่าความอบอุ่น ความผูกพันที่เรามี มันอาจจะไม่ใช่เธอทำบทบาทนี้ แต่เราทดแทนกันอยู่ตลอดเวลา
ผัดไท : คือพร้อมทำแทนกัน ๆ
พี่ก้องทำทุกอย่างแทนเพื่อนได้หมดเลย แม้กระทั่งวันจดทะเบียนสมรส ?
ก้อง ปิยะ : ใช่ไปเป็นพยาน
จริง ๆ วันจดทะเบียนสมรสต้องเป็นพ่อแม่ ?
ชุ ชุดาภา : ใช่เราจะต้องไป แม่กับแม่
ก้อง ปิยะ : ผัดไทไปไหนวันจดทะเบียนสมรส
ผัดไท : ผัดแพ้อาหารแล้วมันไม่ไหว มันต้องนอนโรงพยาบาลเลย แล้วทีนี้โบสถ์นี้เป็นโบสถ์โบราณถ้าไม่จดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมายมาเขาจะไม่ทำพิธีให้ แล้วแม่ดันมาไม่สบาย ปรากฏว่าวันนั้นพี่ก้องใส่ชุดสีชมพูพาลูกไปจดทะเบียนกับพี่ชุ แล้วถ่ายรูปมาแบบลูกฉันแต่งงาน หน้าฟิตมาก แล้วเจก็ส่งข้อความมาบอกว่าน้าก้องมาเป็นพยานจดทะเบียนให้ น้าก้องเขาหน้าสีชมพูมากเลยแม่ เหมือนพี่ก้องเขามีความสุขเขาทำให้หลาน ใครมีช่องโหว่ที่ทำไม่ได้เขาก็จะเสียบให้
ก้องวันนั้นที่ไปจดทะเบียนเป็นยังไงบ้าง ?
ก้อง ปิยะ : ดีใจนะ ได้เห็นจริง ๆ เคยเห็นแต่ในละคร อันนี้มาในชีวิตจริงได้เห็นหลาน 2 คนที่เรารู้สึกรักและรู้ดีด้วยได้จดทะเบียนกัน เพื่อจดเป็นพยาน แล้วก็เซ็นผิดด้วย ก็ต้องพิมพ์ใหม่ ไปเซ็นผิดที่
ชุ ชุดาภา : ไปเซ็นเป็นเจ้าสาว
ก่อนจะถึงวันงานแต่งจริงเกือบจะต้องเปลี่ยนคนส่งตัวเจ้าสาว ?
แต่นางก็โทร. หาเจตั้งแต่เช้า อยู่ร่วมตลอดแล้วเขาก็ไปบิน พอจบงานเรารู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบแล้ว เราอยู่ด้วยกันตั้งแต่เริ่มไม่มีใครขาดใครไป ถ้าสมมติว่าเปลี่ยนจริง ๆ พี่ก้องไม่ว่าหรอก พี่ก้องไม่เสียใจอะไรหรอก แต่คนที่เสียใจคือเจ เพราะเขาไม่อยาก เจอยากควงแขนพี่ก้อง เราก็เข้าใจว่าเขาก็รักของเขา พี่เห็นก็ร้องไห้ตลอด รู้สึกแบบปลื้ม บอกไม่ถูก รักหมดเลย มันไม่ใช่เพื่อน มันคือญาติ
พี่ผัดกับพี่ชุ มีคนอยากรู้ว่าแม่กับแม่จับถูกมาคลุมถุงชนหรือเปล่า ?
ชุ ชุดาภา : ไม่เคยคิดเลย
แล้วเขาไปเจอกันยังไง ?
ชุ ชุดาภา : เขาเจอเป็นระยะ ๆ อยู่แล้วตั้งแต่เด็ก พอโตมาเรื่อย ๆ เราก็ไม่ได้เอะใจว่าเวลาเริ่มช่วงวัยรุ่น ถ้าคนนี้มา เด็กอีกคนก็มา ถ้าเจอาร์มา โจจะมาช่วง 2-3 ปีหลัง อันนี้ไม่รู้คิดเองหรือเปล่า เพราะไม่กล้าถามลูก
แล้วเราไปจับโป๊ะได้ตอนไหน ?
ชุ ชุดาภา : จริง ๆ ผัดไทรู้สึกมาเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว ผัดเคยคุยกับพี่ แต่ผัดจำไม่ได้ เราก็นึกในใจ แต่ก็บอกว่าไม่หรอก ไม่น่าจะใช่ เรานึกในใจ แต่เราไม่ได้ปฏิเสธ เพราะเราคิดว่าลูกเราเป็นคนมีเพื่อนเยอะ เพื่อนผู้หญิงด้วย แล้วเขายังไม่เคยจีบใครเลย ถ้าจีบหรืออะไรเขาจะมาบอก แล้วมันก็ยังไม่ได้เลือกเพจ เราก็ไม่รู้
พี่ผัดสืบยังไงที่ลูกคุยกัน ?
ผัดไท : ผัดบอกพี่ชุตอนนู้นว่าน่าจะชอบกัน เพราะเขาคุยกัน เจอาร์เวลามีอะไรเขาจะเล่าแม่ เขาก็เอาไลน์ให้ดู แต่พี่ชุอย่าทักนะ ๆ คือกลัวมันไม่รักกัน กลัวไปทักแล้วอาย เลิกอย่างงี้ อย่าทัก เงียบ ๆ ไว้ให้เขาคบกันไปเรื่อย ๆ ณ ตอนนั้นแต่ตอนนั้นทั้งคู่ยังไม่ได้ชัดเจน แต่ทุกครั้งที่มีโอกาสเขาจะอยู่ด้วยกัน เขาจะนัดไปทานร้านเก๋ ๆ ไปนู้น ไปนี่ ทีนี้พอเขาเรียนจบมาแล้วโจเขามาทำงานแถวบ้านเรา มันก็นัดกินข้าว เจอกันบ่อย แต่มีหลานอีกคนไปด้วยกัน ตอนแรกไป 3 คนไป ๆ มา ๆ ตอนหลังหลานไม่ได้ไปกับเขา
แล้ววันที่เขามาบอกว่าคบกัน ?
ชุ ชุดาภา : เขาพูดคำเดียวสั้น ๆ แบบว่า โจมีอะไรจะบอก เป็นแฟนกับเจเหรอลูก เขาก็บอกครับ
ผัดไท : พอเป็นลูกพี่ชุเราไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราเห็นมา แต่ก็ลุ้นนะกลัวฝันไม่เป็นจริง พอรู้ว่าเขาจริงจัง ดีใจ เพราะเราถูกใจลูกเขย